ถ้าเลิก 6 พฤติกรรมเหล่านี้แล้วจะควบคุมน้ำหนักได้ดีอย่างยั่งยืน

ถ้าเลิก 6 พฤติกรรมเหล่านี้แล้วจะควบคุมน้ำหนักได้ดีอย่างยั่งยืน

การมีรูปร่างที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันหา แต่เราก็พยายามลดอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว ทำไมน้ำหนักยังไม่ลดลงเลยสักกะขีด คงต้องลองตรวจสอบดูว่าเรามี 6 พฤติกรรมแบบนี้หรือไม่ค่ะ

1. นักกินสายดึก

   ปกติการนอนดึกก็มีผลทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ลดน้อยลงอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเราเป็นนักตระเวนราตรี หรือเป็นผีเสื้อกลางคืน กลับมาถึงบ้านแล้วก็นอนเลย ไม่ได้เผาผลาญพลังงาน ทำให้ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะอ้วนมากขึ้น

2. ชอบผัดวันประกันพรุ่ง  

   “ฉันจะผอม ฉันจะผอม” ฉันจะผอมตั้งแต่ปีก่อนแล้ว จนปีใหม่ก็ยังไม่ไปถึงไหนซะที เพราะเราไม่ได้กำหนดเป้าหมายไว้ และไม่เอาจริงเอาจัง ทางที่ดี ควรตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าเราต้องการจะลดน้ำหนักกี่กิโลกรัม ภายในระยะเวลากี่เดือน จดใส่กระดาษแผ่นใหญ่ๆ ไว้ไปแปะประตูหน้าห้องนอน แล้วประกาศบอกเพื่อนๆ ด้วย หรือไม่ก็ชวนเพื่อนมาเป็นคู่หูออกกำลังกายด้วยกัน วิธีนี้จะช่วยให้พิชิตเป้าหมายได้สำเร็จทั้งสองคน

3. ทำบ้างไม่ทำบ้าง

   การควบคุมน้ำหนักนั้น การมีวินัยเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าเราจะออกกำลังกายเพียงวันละ 10-20นาที แต่หากทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอจะได้ผลดีกว่าคนที่โหมออกกำลังกายในช่วงแรก แล้วตบะแตกในช่วงหลัง ดังนั้น ควรเลือกเวลาเช้า หรือ เย็น ที่เราจะทำได้อย่างสะดวก เมื่อออกกำลังกายเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จดไว้ในสมุดบันทึก เพื่อดูพัฒนาการในแต่ละวัน

4. เลียนแบบคนอื่น

   การติดรูปดาราหรือนางแบบเป็นแรงจูงใจเป็นสิ่งที่ดี แต่การเลือกวิธีควบคุมน้ำหนักนั้นต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเอง ถ้าจะไปฟิตเนสอย่างคนอื่นๆ ในขณะที่มีรายได้ไม่เพียงพอก็คงไม่ใช่ที่ หรืออาจจะไปได้ในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นก็ไม่มีเงินจ่ายค่าคอร์สเสียแล้ว ทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้นอยู่ดี ควรเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง แล้วเก็บเงินไว้เป็นรางวัลซื้อของที่เราอยากได้เมื่อทำได้ตามเป้าหมายแล้วจะดีกว่า

   

5. ใจร้อนเกินไป

   ไขมันที่เราสะสมมานาน อยู่ดีๆ จะให้เผาผลาญหรือขจัดออกไปง่ายๆ ก็ใช่ที่ ต้องค่อยๆ อาศัยระยะเวลา และความมีวินัยในการดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หากเรากินยาลดความอ้วน หรืออดอาหารมากเกินไป จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย หาเงินมาแทบตายต้องไปจ่ายค่ายา ค่าหมอ ซึ่งไม่คุ้มกัน ตั้งเป้าหมายและระยะเวลาที่เราจะสามารถทำได้จริงจะดีกว่า แม้จะลดน้ำหนักได้ทีละน้อย แต่ถ้าทำได้ตามเป้า เราจะมีกำลังใจในการลดน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

6. คิดถึงแต่คำว่า “ผอม” มากเกินควร
   

   บางคนกังวลกับน้ำหนักของตัวเอง และอยากผอมลงมากๆ จนเข้าขั้นวิตกกังวล และกลายเป็นโรคอยากผอม ซึ่งถ้าเป็นโรคนี้แล้วร่างกายจะปฏิเสธอาหาร ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต จริงๆ แล้วคนที่มีรูปร่างผอมก็เจ็บป่วยได้เหมือนกับคนอื่นๆ ดังนั้น มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็นจะดีกว่า รักษารูปร่างให้มีน้ำหนักไม่มากเกินไป และมีสุขภาพดี ไม่มีโรคภัย ก็เพียงพอแล้ว

   หากเรามีพฤติกรรมข้อใดข้อหนึ่งจากที่กล่าวไปแล้ว ก็ควรปรับปรุงให้ดีขึ้น ที่สำคัญคือต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเราเอง และมีวินัยอย่างจริงจัง เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืนค่ะ