Ekamian ร้านน่านั่งสุดชิค ย่านสุขุมวิท
Ekamian ร้านแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 แยก 19 ร้านมีขนาดไม่ใหญ่ ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยปูนเปลือยและเฟอร์นิเจอร์ไม้ สำหรับชั้นล่างจะเป็นโซนครัวและโซนร้านอาหาร มีโต๊ะตัวยาวไว้คอยต้อนรับคนที่มาทาน Chef’s Table เมื่อเดินขึ้นมาบริเวณชั้น 2 จะพบกับโซนอาร์ตแกลอรี่ที่จัดงานแสดงศิลปะ โดยจะมีผลงานจากศิลปินต่าง ๆ หมุนเวียนมาจัดแสดงกันอยู่เรื่อย ๆ ใครที่อยากมาชมงานศิลปะ สามารถแวะมาได้ตั้งแต่เวลา 13.00 – 00.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
cr by www.bkkmenu.com
cr by www.bkkmenu.com
cr by www.wongnai.com
Ekamian เกิดจากกลุ่มคนบ้านอยู่เอกมัย โดยเพื่อนสนิท 3 คนคือ เชฟแทน-ภากร โกสิยพงษ์ จาก One Ounce for Onion เคยผ่านประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่ประเทศสเปน, อิ๊งค์-พชร ศกุนตะลักษณ์ อดีตนักเรียนนอกที่จบด้านมิวเซียมและแกลเลอรีจากอังกฤษ หลงใหลด้านอาหารและไวน์ ก่อนที่จะกลับมาทำงานคลุกคลีกับวงการอาหารแถวหน้าของเอเชียอยู่พักหนึ่ง และปั๊น-รัชต์ จุลชาต ศิลปินอิสระที่จบการศึกษาด้านวิจิตรศิลป์ผู้มีสีผมเป็นเอกลักษณ์
cr by www.bkkmenu.com
cr by www.bkkmenu.com
cr by www.bkkmenu.com
สิ่งที่พิเศษสำหรับที่นี่คือ โดยทุกคืนวันพฤหัส ทางร้านจะจัดเป็นช่วง Chef’s Table มีจำนวนจำกัดเพียง 12 ที่นั่ง และต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งอาหารของที่นี่เสิร์ฟเมนูแทบไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้ง โดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่หามาได้ ณ ขณะนั้น วัตถุดิบตามฤดูกาล ทั้งพืชผักสมุนไพร เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเลต่างๆ
cr by www.bkkmenu.com
Cold Smoked โดยใช้วัตถุดิบที่ให้ฤทธิ์เย็นอย่างเต้าหู้ขาวเนื้อนุ่มละมุนที่ผ่านการรมควัน และราดซอสที่ทำจากซีอิ๊วและเปลือกส้ม ซ้อนทับด้วยกรานิตาน้ำสต็อกข้าวโพดกับปลาแห้ง ท็อปด้วยฟางข้าวโพดทอดให้ฤทธิ์ร้อน รับประทานคู่กับกระเจี๊ยบ ให้สัมผัสกรุบกรอบ
cr by www.bkkmenu.com
Triple C เมนูนี้เป็นการถอดความหลนปูออกมาทำใหม่ ด้านล่างสุดที่หน้าตาคล้ายคัสตาร์ดคือหลน เคียงข้างด้วยเนื้อปูที่ส่งตรงจากสุราษฎร์ธานี กุ้งแชบ๊วยขาแดงมีความพิเศษกว่ากุ้งแชบ๊วยประเภทอื่นตรงที่หากินได้เฉพาะในน้ำสะอาด โดยเชฟเตรียมกุ้งด้วยการแช่เหล้า เล็กน้อยแล้วเผา นอกจากปูและกุ้งก็มีผักและดอกไม้เคียงให้รับประทานร่วมกับหลนด้วย ไม่ว่าจะเป็นแตงกวาดองและหอมแดงดองที่เชฟทำขึ้นเอง ส่วนดอกไม้เชฟได้จากชาวบ้านที่นครปฐม มีดอกคะน้า ดอกเข็ม และดอกพวงชมพู รับประทานพร้อมกันทุกองค์ประกอบก็จะได้หลนดีๆ นี่เอง ไม่เลี่ยน เพราะมีรสเปรี้ยวจากผักดองมาช่วยตัด แถมยังสัมผัสถึงรสหวานธรรมชาติจากซีฟู้ดสัญชาติไทยอีกด้วย
cr by www.bkkmenu.com
Layers ปลาเก๋าแดงจากสุราษฎร์ธานีหั่นชิ้นพอดีคำแล้วแช่ในน้ำเกลือมอลดอนกับมิริน จากนั้นนำมาจัดใส่จาน พร้อมโรยหน้าด้วยใบไม้สมุนไพรที่ต่างก็มีรสเฉพาะเป็นของตัวเอง ทั้งยี่หร่า ชะพลู ผักแพว และแขยง ส่วนก้อนเข้มๆ ที่เห็นคือเจลมะขามที่ให้ผู้รับประทานผสมปลาดิบเพิ่มรสชาติตามใจชอบ อย่าลืมบีบส้มจี๊ดนิดหน่อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น
cr by www.bkkmenu.com
Double D อกเป็ดซูวีด์ที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เชฟแทนเลือกใช้วิธีการซูวีด์เพื่อให้เนื้อเป็ดยังคงความฉ่ำและสัมผัสที่นุ่ม สำหรับน้ำซอสราดเป็ดได้มาจากน้ำจากการเคี่ยวตีนเป็ด ส่วนกะหล่ำปลีที่เสิร์ฟเคียงนั้น เชฟนำไปย่างในไขมันเป็ดและซอสพอนซึ ใบกะหล่ำจึงมีความมันและรสอมเปรี้ยว
cr by www.bkkmenu.com
Sticky Back Alley Ribs เนื้อซี่โครงหมู Slow Cooked และนำไปทอดกรอบ ทำให้ได้รสสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสซีอิ๊วผสมน้ำผึ้ง ทานคู่กับมันฝรั่งบดเนื้อเนียนผสมกับกระเทียม
cr by thestandard.com
River, River กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่ ที่จับตามธรรมชาติแถวสมุทรสงครามโดยชาวประมงท้องถิ่น นำกุ้งไปเผาจนเนื้อสุกกำลังดีและมันกุ้งเยิ้ม แล้วราดซอสที่ได้จากหอมใหญ่คาราเมไลซ์กับเปลือกกุ้งเผา ในจานยังมาพร้อมพิวเรมันฝรั่ง เปลือกแตงโมดองช่วยตัดรสชาติ และให้เพิ่มรสเค็มด้วยเกลือมอลดอนจากอังกฤษ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเพชร แถมมีสัมผัสกรุบกรอบ ให้รสเค็มละมุนสม่ำเสมอทั่วกัน
cr by www.bkkmenu.com
Kao Tom Nam Woon ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวต้มน้ำวุ้น ขนมไทยที่เรามักจะเห็นในน้ำแข็งไส เป็นข้าวเหนียวทรงสามเหลี่ยม จานนี้ผ่านการดีคอนสตรักต์ใหม่โดยชั้นล่างสุดเป็นข้าวเหนียวมูนผสมวานิลลาและครีม ชั้นถัดมาเป็นกรานิตาใบเตย และชั้นบนสุดคือโฟมมะพร้าว มีใบโหระพาเล็กๆ วางมาด้วยเพื่อให้เคี้ยวแล้วได้กลิ่นหอมปิดท้าย จานนี้ให้รับประทานทุกเลเยอร์พร้อมกันแล้วจะได้ผลลัพธ์ของการประกอบสร้างเป็นข้าวต้มน้ำวุ้นในท้ายที่สุด
cr by www.bkkmenu.com
ใบโปร่งฟ้า มาในแก้วที่ใส่น้ำแข็งจนเกือบพูนและมีใบไม้เล็กๆ วางอยู่คือใบสมุนไพรไทยชื่อ โปร่งฟ้า โบราณว่ามีสรรพคุณทำให้ชุ่มคอและช่วยเลิกบุหรี่ เชฟแนะนำให้ลองเคี้ยวดู พบว่าใบโปร่งฟ้าให้รสเหมือนลูกอมแฮ็คส์ เย็นๆ หวานอ่อนๆ เป็นการล้างปากด้วยวิธีธรรมชาติที่เรียบง่าย แต่กลับสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย
พิกัดร้าน : 297/2 Sukhumvit 49 กรุงเทพมหานคร 10110
เปิดบริการเวลา : Art Gallery เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-24.00 น.
Co-drinking Space เปิดวันอังคาร-พุธ และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น.
Chef’s Table เปิดวันพฤหัสบดี เวลา 19.00-24.00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
ติดต่อได้ที่เบอร์ : 083 789 9091
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : Ekamian ร้านน่านั่งสุดชิค ย่านสุขุมวิท
เรื่องนี้ไม่อนุญาติ ให้แสดงความคิดเห็น